31 พ.ค. 2554

เรียนร้อยเครื่องประดับตริสตัล

เครื่องประดับตกแต่ง สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู เป็นของประดับที่นิยม โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี ที่ต้องสรรค์หามาประดับตกแต่งเพื่อเสริมบุคลิกให้ดูดี ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับ

เรียนร้อยเครื่องประดับตริสตัล CRYSTAL DESIGN การเรียนร้อยเครื่องประดับนั้น จะแบ่งออกเป็นคอร์สต่างๆดังนี้

คอร์สพื้นฐานที่ 1 ระดับ
โดย ราคา 499 บาท คอร์สนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน เป็นพื้นฐานที่เน้นการเรียงร้อยเครื่องประดับอย่างง่าย ๆ พร้อมด้วยเกร็ดความรู้เกี่ยวกับลูกปัดและคริสตัลสวารอฟฬกี้ประเภทและสีต่าง ๆ
ที่สำคัญคือเทคนิคการดูลักษณะคริสตัลสวารอฟสกี้แท้หรือไม่แพ้โดยจะเน้นการสอนเทคนิคการขึ้นรูปชิ้นงานไล่โทนสี ความสัมพันธ์ของสี การผสมสี เพื่อทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบชิ้นงานอย่างง่าย ๆ รวมถึงการฝึกสมาธิ การสังเกต เพื่อเตรียมความพร้อมในคอร์สเรียนขั้นต่อไป และหากสมัครเรียนในคอร์สพื้นฐานที่ 1
ระดับ 1 จะได้รับฟรี! ถาดออกแบบ/ถาดเทียบสี 1 ใบ เพื่อช่วยในการออกแบบ และสามารถปรับเปลี่ยนตามแบบที่ต้องการก่อนที่จะร้อยจริงได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนลดให้อีก 20% สามารถใช้เป็นส่วนลดหนังสือเกี่ยวกับการสอนร้อยคริสตัลสวารอฟสกี้ทั้งหมดที่เป็นของบริษัทฯ ได้

คอร์สพื้นฐานที่ 1 ระดับ ราคา 599 บาท
คอร์สเรียนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานจากคอร์สพื้นฐาน 1 ระดับ 1 มาก่อนแล้ว ซึ่งคอร์สนี้จะฝึกษักษะขั้นพื้นฐานในการทำเครื่องประดับอย่างมืออาชีพและการใช้เครื่องมือที่ถูกวิธี เมื่อเรียนหลักสูตรนี้จบแล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ทำเป็นชิ้นงานให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นและสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพในเบื้องต้นอย่างง่าย ๆ และเป็นการสร้างทักษะที่จำเป็นในการเรียนคอร์สขั้นต่อไป หากสมัครเรียนคอร์สพื้นฐาน 1 ระดับ 2 จะได้รับกระเป๋า Rainbow Art แถมให้ฟรี 1 ใบ และยังมีส่วนลดให้อีก 20%

สำหรับการซื้อหนังสือเกี่ยวกับการร้อยสร้อยคริสตัล แต่ถ้าสมัครเรียนพร้อมกันทั้งคอร์ส 1 ระดับ 1 และคอร์ส 1 ระดับ 2 ราคาปกติ 1,098 บาท จะลดเหลือเพียง 999 บาท เท่านั้น

คอร์สเรียงร้อยคริสตัลและลูกปัด หลักสูตรขั้นพื้นฐาน ราคา 2,290 บาท
สอนร้อยซิ้นงานสำเร็จทั้งหมด 4 แบบ (สร้อยคอ สายนาฬิกา แหวน และต่างหู) หากสมัครเรียนคอร์สขั้นพื้นฐานนี้ จะได้รับแถมหนังสือ Crystals New Collcction 1 ฟรี

นอกจากนี้ยังมีส่วนลดต่างๆ อีกมากมาย คอร์สเรียงร้อยกรอบพระราคา 1,790 บาท หากลงเรียนร้อยกรอบพระแถมฟรี! ถาดออกแบบ/ถาดเทียบสี 1 ใบ เพื่อช่วยในการออกแบบและสามารถปรับเปลี่ยนตามแบบที่ต้องการได้ก่อนที่จะร้อยจริง และยังมีส่วนลดอื่น ๆ อีกมากมาย และหากลงเรียนควบทั้งคอร์สพื้นฐานและกรอบพระ จากราคาปกติ 4,080 บาท ลดเหลือเพียง 3,600 บาท

คอร์สถักและสานคริสตันพื้นฐาน 2 ระดับ 1 ราคา 1,800 บาทสอนร้อยสร้อยคอและสร้อยข้อมือ ใช้เวลาเรียน 8 ชั่วโมง คอร์สยกดอกคริสตัล พื้นฐาน 2 ระดับ 2 ราคา 1 ,900 บาท สอนร้อยสร้อยข้อมือยกดอก 1 ชิ้น คอร์สนี้เรียนเพื่อทำชิ้นงานที่คล้ายคลึงจิวเวอรี่ สามารถสร้างชิ้นงานที่ไม่ซ้ำแบบใคร ทำเป็นงานไอเดียของตัวเองได้ หากลงเรียนควบทั้งคอร์สพื้นฐาน 2 ระดับ 1 และระดับ 2 แล้ว จะได้รับส่วนลด จากปกติ 3,880 บาท เหลือเพียง 3,790 บาท

นอกจากนี้ ยังมีคอร์สที่เป็นหลักสูตรเร่งรัดในการทำสร้อยข้อมือถึง 3 แบบ ด้วยราคาเพียง 2,999 บาทเท่านั้น และยังมีคอร์สสร้อยข้อมือที่เป็นเทรนด์เกาหลี ราคา 2,399 บาท

คอร์สนี้เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่สนใจในงานดีไซน์ที่เป็นแบบวัยรุ่นเกาหลีมีทั้งหมด 3 แบบ และยังมีคอร์สที่สอนร้อยตุ๊กตามากกว่า 25 แบบ เมื่อเรียนจบก็จะได้ชิ้นงานที่ทำกลับไป
นอกจากนี้สถาบันคริสตัลดีไซน์ยังมีข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังมองอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักที่สร้างรายได้งามให้กับตนเองอีกด้วยเพียง สมัครแพ็คเก็จคอร์สเรียน 9,999 บาท

นอกจากจะได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ของการร้อยคริสตัลจากคอร์ส 1 ระดับ 1 คอร์ส 1 ระดับ 2 และคอร์ส 2 ระดับ 1 แล้ว ทางสถาบันยังได้จัดเตรียมเม็ดคริสตัลสวารอฟสกี้สีต่าง ๆ และอุปกรณพื้นฐานเพื่อให้สามารถร้อยชิ้นงานได้หลากหลายโดยสามารถเปิดร้านเล็ก ๆ ของตัวเองได้ นอกจากแพ็คเก็จ 9,999 บาทแล้ว ยังมีแพ็คเก็จ 14,999 บาท และแพ็คเก็จ 1 9,999 บาท
ซึ่งแพ็คเก็จยิ่งราคาสูงขึ้น ก็จะได้เรียนคอร์ส เรียนมากคอร์สขึ้น และได้คริสตันสวารอฟสกี้และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยและนับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่เข้าอบรมกับทางสถาบันคริสตันดีไซน์เนื่องจากทางสถาบันฯ
ได้จัดโครงการร่วมกับ บริษัท เรนโบว์ อาร์ท จำกัด คัดเลือกงานร้อยคริสตัลของผู้ที่ผ่านการอบรมเพื่อนำไปจำหน่ายเพื่อเป็นการรองรับอาชีพเสริมหรือเพิ่มช่องทางในการทำมาหากินให้กับผู้เข้าอบรม หลังจากที่เรียนจบหลักสูตรเบื้องต้นที่กำหนดไว้อีกด้วย

สำหร้บผู้ที่สนใจเครื่องประดับแฮนด์เมดคริสตันสวาอฟสกี้ อะไหล่ และอุปกรณ์ในการร้อยเครื่องประดับสามารถสั่งซื้อได้ที่ บริษัท เรนโบว์ อาร์ท จำกัด ทั้ง 5 สาขา สำนักงานใหญ่ (เยาวราช)
โทร. 0-2226-2888 สาขา อินเดีย เอ็มโพเรียม (พาหุรัด ห้าง ATM เก่า) เปิดกลางเดือนก.พ. 51 สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว โทร.0-2937-1342, สาขาเซ็นทัลพระราม 2 โทร. 0-2872-4174 ,
สาขาสยามสแควร์ ซอย 2 โทร. 0-2654-6350-2

23 พ.ค. 2554

ขายหมูสะเต๊ะ

อาชีพขายอาหาร ยังเป็นอาชีพทีไปได้ดี ก่ว่าเศรษฐกิจจะพลิกผันอย่างไร เพราะถึงอย่างไร มนุษย์ก็ต้องกินอยู่
วันยังค่ำ สูตรอาหารที่จะให้ในวันนี้ สามารถทำออกจำหน่ายได้ด้วย และขอบอกล่วงหน้าก่อนว่า ถ้าทำได้อร่อย จะขาย
ได้ง่ายอีกต่างหาก เพราะคนค่อนข้างนิยมในรสชาติ อาหาีีรว่างนั่นคือ หมูสะเต๊ะ

ขายหมูสะเต๊ะ

ขอบคุณภาพจากrecipes95.blogspot.com


ข้อดีของหมูสะเต๊ะ คือ ลงทุนน้อย ขายได้แน่นอน ตามร้านขายอาหารทั่วไป บางครั้ง มีหมูสะเต๊ะเป็นตัวเสริม ลูกค้าจะสั่งมาเป็นออร์เดิร์ฟ เรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะกินอย่างจริงจังในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า หรือตามตลาดที่เห็นอย่างกันโขมงโฉงเฉง นั่นก็เป็นการขายหมูสะเต๊ะเพียงอย่างเดียว ลูกค้าไม่ใช่จะสั่งกันแค่ 2-3 ไม้ แต่หมูสะเต๊ะนี่ เค้าสั่งกินกันที่เป็น 20-30 ไม้ เพราะ คนขายนิยมเสียบหมูไม้เล็ก ๆ พอคำ การลงทุนทำหมูสะเต๊ะ ไม่น่าจะเกิน1,000 บาท

สำหรับเตาปิ้งหมูแบบยาว ๆ นั้น เคยถามคนที่ทำอาชีพนี้ บอกว่า เตาละ 2๐๐ กว่าบาทเท่านั้น (แบบธรรมดาส่วนกำไร น่าจะได้มากกว่า 50% ขึ้นไป)
ทำเลที่เหมาะสมสำหรับการขายหมูสะเต๊ะ คงเป็น ทำเลทั่วไปคือ มีผู้คนพลุกพล่าน ในตลาด ใกล้โรงเรียนหรืออาจจะเช่าหน้าร้านขายอาหารเลยก็ได้

ขั้นตอนการทำหมูสะเต๊ะอย่างละเอียด
หมูสะเต๊ะ จะทำให้อร่อย ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การ เลือกหมู หมู สำหรับการทำหมูสะเต๊ะคือ หมูสันใน (กิโลละประมาณ 120-150 บาท) และเป็นหมูสันในที่สด สะอาด
ไม่มีกลิ่น ได้หมดแล้วนำมาล้างให้สะอาด ผึ่งหมูให้แห้ง นำมาหั่น ขอเน้นว่าหั่นตามขวาง (เนื้อหมูจะมีลักษณะเป็นเส้นยาว ให้หั่นตามขวาง เพื่อประโยชน์ในการหมักหมู
ต่อไป )

เครื่องหมัก
เครื่องที่จะนำมาหมักหมู ประกอบด้วย กะทิผงกะหรี่ นมสด สีผสมอาหารสีเหลือง (เลือกสีที่มีสัญลักษณ์ อย. ) น้ำตาล นำมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วราดลงบนหมูที่หั่นตามขวาง ไม่ต้องใช้มือคลุก แค่ขยับถาด
ไปมา น้ำหมักจะค่อย ๆ ลงไปเอง เอาเข้าตู้เย็น แช่ไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง (ไม่ต้องแช่ในช่องแข็ง เพราะต้องการให้น้ำหมักซึ่งเข้าเนื้อหมูเท่านั้น)นำออกจากตู้เย็นมาเสียบไม้ เรียงในถาด แล้วนำ
เข้าช่องแช่แข็ง แช่ไว้ อีก 24 ชั่วโมง

น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
มีส่วนผสมดังนี้
กะทิ 5 กิโลกรัม
ถั่วลิสง 1/2 กิโลกรัม
น้ำพริกหมูสะเต๊ะ 1/2 กิโลกรัม
น้ำตาลปี๊บ 1.5 กิโลกรัม
น้ำปลา 120 ซีซี
น้ำส้มสายชู 120 ซิซิ

กะทิ ซื้อในตลาดแบบที่ให้แม่ค้าคั้นเลยแยก หัวกะทิ หางกะทิมาด้วย ถั่วลิสง ซื้อมาคั่วเอง (ซื้อที่คั่วไว้แล้ว อาจเหม็นหืน หรือมีเชื้อรา)
คั่วพอหอม เอาเปลือกออกนำไปตำหรือปั่นกับเครื่องให้ละเอียด เน้นว่าต้องละเอียด เป็นเม็ด ๆ แบบทรายหยาบก็ไม่ได้
น้ำพริกหมูสะเต๊ะ 1/2 กิโลกรัม ได้จาก น้ำพริกมัสมั่น 200 กรัม และน้ำพริกแกงเผ็ด 300 กรัม
นำมาผสมกัน หรืออาจจะมีน้ำินี้ผสมขายกันอยู่แล้ว
เมื่อทราบส่วนผสมและรายละเอียดของส่วนผสมแล้ว ขั้นแรก เคี่ยวกะทิ จนแตกมัน ใส่ถั่วลิสงที่ป่นแล้ว ใช้ไฟกลาง คนไปเรื่อย ๆ ให้น้ำพริก ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำส้มสายชู พอเดีอด แตกมันเริ่มมีสีแดง ก็
ใช้ได้

อาจาด
มีส่วนผสมของน้ำจิ้มกับผัก
-น้ำจิ้ม ประกอบด้วย น้ำตาลทราย 2 กิโลกรม น้ำส้มสายชู 1 ขวด และเกลือปน 1๐๐ กรัม (1 ขีด) ใส่หม้อรวมกัน ตั้งไฟให้ละลายแล้วยกลงเลย ไม่ต้องเคี่ยวเพราะถ้าเคียวน้ำตาลไหม้ น้ำจิ้มจะไม่เงา และมีกลิ่น
น้ำตาลไหม้
-ผักที่ใช้มีแตงกวา หั่นใหญ่กว่าแตงกวาในน้ำจิ้มทอดมัน พริกชี้ฟ้าเหลือง (อย่าใช้สีเขียว เพราะสีจะปนไปกับแตงกวา) หั่นตามขวาง ร่อนเอาเม็ดออก ใช้เฉพาะตัวพริก หอมแขก
เลือกหัวที่ไม่ใหญ่นัก (เหมือนหอมแดง มีขนาดใหญ่กว่า สีเหลือง ๆ ออกส้ม อย่าใส่หอมแดง) หั่นตามขวาง

***ข้อควรระวัง คือ เมื่อนำหมูออกมาจากช่องแช่แข็งปล่อยให้ละลายเอง อย่าดึงออก เพราะจะได้แต่ไม้ ไม่มีหมูติดมา ส่วนที่นำไปปิ้ง พรมด้วยหางกะทิผสมเกลือ ส่วนผสมขนาดนี้
จะทำหมูสะเต๊ะได้ราว 1,๐๐๐ไม้ ราคาขายอาจจะอยู่ที่ 2.5-3.0 บาท


อาชีพขายหมูสะเต๊ะ
การลงทุน - ประมาณ 1,๐๐๐ บาท
กำไร - มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
วัสดุอุปกรณ์
- ถาด ไม้เสียบหมู เตาปิ้งหมู (แบบยาว) และอุปกรณ์อึ่น ๆที่ใช้ในครัวเรือน เช่น กระทะ ทัพพี กะละมัง เขียง มีด
สวนผสม
- หมูสันใน กะทิ ผงกะหรี่นมสด สีผสมอาหาร น้ำตาลททยถั่วลิสง น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำส้มสายชู น้ำพริกหมูสะเต๊ะ แตงกวา เกลือพริกชี้ฟ้าเหลือง หอมแขก
ทำเล - ในตลาด แหล่งชุมชน สถานศึกษา เปิดท้านตลาดนัด หรือหน้าร้านอาหาร

*** ทดลองทำปรับสูตรไปเรื่อยๆจนพอใจ ต้องอาศัยความชำนาญนิดนึง ราคาส่วนผสมต่างๆอาจจะขึ้นลง เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

21 พ.ค. 2554

เปิดร้านขายกาแฟสด

การเปิดร้านกาแฟสด เป็นหนึ่งในธุรกิจยอดนิยมที่ ทุกวันนี้เราจะสังเกตุเห้นว่า ไปที่แห่งไหนก็จะมีแต่ร้านกาแฟเต้มไปหมด การเปิดร้านกาแฟสดนั้นต้องอาศัยความรุ้หลายๆอย่างเข้าช่วย
แล้วหากคนที่ไม่ทีความรู้เรื่องกาแฟล่ะ จะสามารถเปิดร้านกาแฟสดได้หรือเปล่า? คำตอบคือ ได้ เพราะทุกวันนี้ มีแฟรนไชส์ร้านกาแฟสดเปิดตัวให้บริการ เป็นทางเลือกของผู้ประกอบที่จะตัดสิยใจ
การจะเปิดร้านกาแฟสด เพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้นั้นต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร เพราะต้องใช้ทุนมากพอสมควร การเลือกแฟรนไชส์ที่ดีจึงมีส่วนมาก

ร้านกาแฟสด

ภาพจากgotoknow.org

วันนี้จึงนำข้อมุลของแฟรนไชส์กาแฟสดมาให้ศึกษาอีกหนึ่งตัว นั่นคือ "คาเฟ่ อินดี้ (Cafe indy) "

รายละเอียดคาเฟ่ อินดี้ (Cafe indy)
จำหน่ายกาแฟสด ทันสมัย สไตล์ใหม่ ใช้พื้นที่ในการขายน้อย ให้คุณสามารถบริการเครื่องดื่มกาแฟEspresso ร้อน เย็น หลากหลายชนิด และชาสุขภาพ แฟรนไชส์กาแฟสด Cafe indy
มีความต้องการสร้างธุรกิจ เพื่อคนไทยที่มีความสนใจธุรกิจกาแฟสด โดยเน้นการลงทุนความเสี่ยงต่ำ ได้ผลการตอบแทนที่คุ้มค่าการลงทุน

ลักษณะสินค้า และบริการ
จำหน่ายกาแฟสด ทันสมัย สไตล์ใหม่ ใช้พื้นที่ในการขายน้อย ให้คุณสามารถบริการเครื่องดื่มกาแฟEspresso ร้อน เย็น หลากหลายชนิด และชาสุขภาพ

การลงทุน

1. ค่าให้สิทธิ์กาแฟสด Cafe indy เพื่อดำเนินธุรกิจโดยชำระค่าใช้สิทธิ์ เป็นเงิน 15,000 บาท มีระยะเวลา 1 ปีเต็ม 3. ทาง Cafe indy ขอสงวนสิทธิ์การ
เปลี่ยนแปลงราคาอุปกรณ์และวัตถุดิบทุกอย่างโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้
2. ชุดอุปกรณ์เปิดร้านใหม่ประกอบด้วยเครื่องมือวัตถุดิบต่าง ๆ บู๊ทกาแฟคาเฟ่อินดี้ 1 บู๊ท เคลื่อนย้ายเปลี่ยนทำเลได้ง่าย

รูปแบบการลงทุน แฟรนไชส์กาแฟสด Cafe indy(139,000 บาท)
โดยรายละเอียดการลงทุนมีดังนี้
1.15 กาแฟสด 2 กก.
1. ชุดอุปกรณ์เปิดร้านใหญ่ประกอบด้วย เครื่องมือวัตถุดิบต่างๆ ดังนี้
1.1 บู๊ทกาแฟคาเฟ่อินดี้ 1 บู๊ท (เคลื่อนย้ายเปลี่ยนทำเลได้ง่าย)
1.2 เครื่องทำเอสเพรสโซ่ 1 เครื่อง
1.3 เครื่องบดกาแฟ 1 เครื่อง
1.4 เครื่องปั่นน้ำ 1 เครื่อง
1.5 ขวดวิปครีม + ก๊าซ 50 หลอด 1 ขวด
1.6 ที่ตีฟองนม 1 อัน
1.7 ชุดอุปกรณ์เสริม 1 ชุด 10 รายการ
1.8 ชุดพนักงาน 1 ชุด
1.9 แก้ว 22 ออนซ์ 100 ใบ
1.10 ฝาแบน 50 ใบ
1.11 ฝาโดม 50 ใบ
1.12 กระดาษทิชชู่ 2 ห่อ
1.13 หลอด 2 ห่อ
1.14 โกโก้ 500 กรัม
1.16 กาแฟนำเข้า 4 ตัว ตัวละ 100 กรัม
1.18 ชาเขียวสุขภาพ 6 ตัว
2. ค่าให้สิทธิ์กาแฟสด Cafe indy เพื่อดำเนินธุรกิจโดยชำระค่าใช้สิทธิ์ เป็นเงิน 15,000 บาท มีระยะเวลา 1 ปีเต็ม
3. ทาง Cafe indy ขอสงวนสิทธิ์การ เปลี่ยนแปลงราคาอุปกรณ์และวัตถุดิบทุกอย่าง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

คาเฟ่ อินดี้ (Cafe indy)
ที่อยู่ 139/13, 139/16-18 ซ.โชคชัย 4
ถ.ลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ 0-97731745, 0-1400-7374

20 พ.ค. 2554

แค่มีไอเดียก็ทำเงินได้

แค่มีไอเดียก็ทำเงินได้ , ไอเดียทำเงิน,หาไอเดียทำธุรกิจ

การคิดนอกกรอบทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัฒตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ สิ่งที่เราเห็นๆกันอยุ่ทุกวัน หากเรารู้จัก ต่อยอดแต่งเติม เพิ่มไอเดียเข้าไปก็สามารถสร้างรายได้ให้เราได้ ของบางอย่างที่คนอื่นอาจจะมองว่าเป้นของเหลือใช้ เป้นขยะปล่อยทิ้งไว้รกโลกเฉย แต่กับบางคนอาจจะเป็นแหล่งทำเงินให้เขาได้สบายๆ ความแตกต่างมันนอยู่ที่ไอเดีย สมัยนี้การแข่งขันกันมีสูงมากๆ คนที่ได้เปรียบคือคนที่มีความคิด สร้างสรรค์เท่านั้น มองทุกอย่างและหาช่องทางที่จะนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจให้ได้ ขอยกตัวอย่าง 4 ไอเดีย ดังนี้

1. "เครื่องให้อาหารสุนัขทางโทรศัพท์"
คิดค้นกลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคชัยนาท ช่วยให้เราสามารถให้อาหารสุนัขได้แม้จะทำธุระอยู่นอกบ้าน เพราะด้วยนิสัยการกินของสุนัขที่กินทีเดียวหมดจาน หากเจ้าของไม่อยู่บ้านแล้วเตรียมอาหารทิ้งไว้ เจ้าตัวน้อยก็จะกินหมดไม่เหลือไว้กินมื้ออื่นๆจึงเกิดไอเดียนี้ขึ้นมา
เพียงแค่ใส่อาหารเม็ดในถังแล้วเปิดสวิตช์ทิ้งไว้ เมื่อถึงเวลาที่จะให้อาหารก็โทรศัพท์เข้ามา สัญญาณการโทร.เข้าก็จะสั่งให้มอเตอร์ดันลูกสูบให้เทอาหารลงมาในถาด

แนวความคิดนี้ ได้จากการสังเกตการทำงานของรถแทร็กเตอร์ดันดิน ไทเมอร์รีเลย์ของเครื่องยนต์ดีเซลและกลไกการปัดน้ำฝนของรถยนต์ ขณะเปิดเครื่องเตรียมพร้อมให้เครื่องทำงาน จะไม่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าแต่อย่างใด ไม่เสียค่าโทรศัพท์ ทั้งสะดวกประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา

2.เครื่องรดน้ำแปลงผัก แปลงดอกไม้ ด้วยโทรศัพท์มือถือ"
เป็นผลงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพียงแค่กดหมายเลขโทรศัพท์ ตามรหัสที่ตั้งไว้ น้ำก็จะพุ่งออกจากสปริงเกอร์กระจายสู่แปลงผักทันที ครั้นจะเปลี่ยนไปรดแปลงใหม่ก็กดรหัสหมายเลขเพิ่มเติมจากที่ลงท้ายรหัสแปลงที่ 1ด้วยเลข 1 พอไปรดแปลงที่ 2 รหัสก็ต้องลงท้ายด้วยเลข 2 ไปเรื่อยๆ จนครบทั้งสวน ทุกแปลงจะมีรหัสของตัวเอง

3. อุปกรณ์ป้องกันสายยางตก
ผู้คิดค้นคือวิทยาลัยการอาชีพพรรณานิคม อาชีวศึกษา สกลนคร ที่คิดแก้ปัญหาเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันที่เราต้องเจอกันทุกคน คือเวลารองน้ำจากสายยางใส่ถังหรือกะละมัง ไม่ว่าจะใช้ซักผ้า ล้างจาน ล้างรถ และอีกหลายๆ อย่าง เราต้องคอยจับสายยางไว้ตลอดเวลาจนกว่าจะได้ปริมาณน้ำตามต้องการ หากไม่ทำอย่างนี้สายก็จะตกทำให้ต้องเสียเวลา ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ตอนนี้ผลิตออกขายราคาแค่ 39 บาทเท่านั้น แต่ช่วยประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำงาน และช่วยอำนวยความสะดวกให้พ่อบ้านแม่บ้านคุ้มค่าคุ้มเวลาอย่างยิ่ง

4. รองเท้าประคบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ Sabaitoa (สบายเท้า)
จากแผนกวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดสุรินทร์ เพื่อรองรับวิถีชีวิตคนไทยในปัจจุบันที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
รองเท้าประคบสมุนไพรนี้จะช่วยนวดฝ่าเท้าด้วยลูกประคบสมุนไพรหลากชนิดที่ใช้ในการนวดแผนไทย ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายเหมือนกำลังนวดเท้า บรรเทาอาการปวดบวมและอักเสบของกล้ามเนื้อ รวมทั้งกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพียงแค่อุ่นรองเท้าในเตาไมโครเวฟก่อนสวมใส่ เหมาะสำหรับคนทำงานที่ไม่ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้มีวางจำหน่ายแล้ว

ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกต ช่างคิด ช่างทำ ทำให้สามารถต่อยอด คิดหาหนทางเพื่อสนองความสะดวกสบาย เพราะคนเราส่วนใหญ่นั้นชอบสบาย ก็กลายเป็นเงินเป็นทองได้ เริ่มลองหัดคิด จากสิ่งใกล้ตัว ที่ทุกคนมองข้าม อย่างน้อยๆก็ได้บริหานสมอง

10 พ.ค. 2554

ข้าวเหนียวมูน

ข้าวเหนียว มูน
ช่วงที่มีมะม่วงออกมาเยอะ ทั้งสุก ทั้งดิบ ทั้งมันทั้งเปรี้ยว สามารถเลือกกินตามความพอใจ
มะม่วงมีอยู่มากมายปลูกได้ในประเทศของเราเอง มะม่วงเป็นผลไม้ที่ อร่อย มีประโยชน์มาก ไมแพ้
หน้ามะม่วงสุก ทั้งอกร่อง น้ำดอกไม้ถ้าจะให้อร่อยก็ต้องกินกับข้าวเหนียวมูน นอกจากจะทำไว้กินเองแล้ว ข้าวเหนียวมูน ยังทำขายได้อีกด้วย ในตลาดขายกัน กิโลกรัมละ 80-100 บาทเลยทีเดียว

ขั้นตอนการทำข้าวเหนียวมูน
นำข้าวเหนียวมาล้างให้สะอาด ขัดกับสารส้มก้อนโต จะทำให้ข้าวเหนียวที่หุงออกมาขาว สวยแช่น้ำทิ้งไว้สัก 1 คืน จึงนำไปนึ่ง หลังจากสุกแล้วนำมามูนกับน้ำกะทิ ที่ผสมน้ำตาลทรายและเกลือ ชิมรส
ให้หวานมัน ถ้ายังหวานไม่พอ ก็เพิ่มน้ำตาลทรายเข้าไปอีก เท่านี้กเสร็จแล้วข้าวเหนียวมูนที่ได้นี้ไม่ใช่ว่าจะกินกับมะม่วงสุกได้
อร่อยเพียงอย่างเดียว กับน้ำกะทิทุเรียน กินกับทุเรียนไม่มีน้ำกะทิ กับสังขยา ปลาป่นปลาแห้ง ก็อร่อยเหาะไปเลย

1.ข้าวเหนียวใหม่
2.หัวกะทิคั้นสด ๆ
3.น้ำตาลทราย
4.เกลือป่นวิธีทำ

1.นำข้าวเหนียวไปแช่ในน้ำกับสารส้มประมาณ 6-7 ชั่วโมง ล้างออกให้สะอาดจนแน่ใจว่าไม่เหลือสารส้มตกค้าง เพราะถ้าตกค้างจะทำให้ข้าวเหนียวเปรี้ยว
2.นำไปนึ่ง เมื่อข้าวเหนียวสุก นำไปผสมกับหัวกะทิคั้นสดที่ปรุงน้ำตาลและเกลือจนมีรสชาติดีแล้ว จากนั้นปิดฝาหม้อให้สนิท นึ่งอีกประมาณ 20 นาที ข้าวเหนียวจะนแห้งและกินได้ทันที

**หมายเหตุ ถ้าจะให้ข้าวเหนียวมีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ นำดอกมะลิที่ปลอดสารพิษมาอบกับน้ำกะทิก่อนจะผสมข้าวเหนียว

เงินลงทุน ประมาณ 5๐๐ บาท/กะละมัง
สิ่งที่ต้องคำนึง รสชาติและความสะอาดของข้าวเหนียว รวมทั้งความสดของน้ำกะทิ
ทำเล เขตชุมชน ใกล้ตลาดสด แหล่งคน พลุกพล่าน สถานที่ราชการ สถานศึกษา