18 มี.ค. 2554

ทำขนมไทยขาย

ทำขนมไทยขาย
ขนมไทย เป็นอาหารที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นขนมที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ขนมไทยประกอบไปด้วย วัตถุดิบที่หาได้ในแต่ล่ะท้องถิ่น เช่น แป้ง ถั่ว งา น้ำตาล กะทิ
วันนี้ขนมไทยสามารถนำมาประกอบเป็นธุรกิจระดับแฟรนไชส์ หรือโกอินเตอร์กันแล้ว หากคิดจะหารายได้จากฝีมือการทำขนมไทยขาย ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย ขอให้ตั้งใจทำให้อร่อยรับรอง มีลูกค้าอย่างแน่นอน

ทำขนมไทยขาย


ข้าวต้มผัด (ข้าวต้มมัด)
ข้าวต้มผัด หรือข้าวต้มมัด เรียกได้เหมือนกัน ทั้งนีอาจจะเป็นลักษณะของขึ้นชนิดนี้ที่มีการมัด 2 เปลาะ จึง
เรียกว่า ข้าวต้มมัด หรือลักษณะการนำข้าวเหนียวไปผัดกับกะทิและน้ำตาลก่อนจึงเรียกว่าข้าวต้มผัด
ขนมไทยชนิดนี้ มีมาแต่โบร่ำโบราณ เป็นขนมที่ออกจะไม่ค่อยเหมือนขนมอึ่น ๆ สักเท่าไหร่ เพราะกินแล้วหนักท้องกินแล้วอิ่ม เหมือนกินข้าว คนสมัยก่อนที่ต้องเดินทางไกล มักจะนำขนมนี้ ไปกินระหว่างทาง

ข้าวต้มมัด ยังมีคนทำขายกัน หากินได้ไม่ยาก ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน ไม่ได้เป็นขนมโบราณที่กำลัง
จะเลือนหายอะไรอย่างนั้น แต่หาที่อร่อย ๆ ออกจะยากสักหน่อย ฉะนั้น เรามาทำกินเองดีกว่า เผลอ ๆ ออก
ขายได้เงินอีก

ข้าวต้มมัด
ส่วนผสม
1. ข้าวเหนียว 5 กิโลกรัม
2. กะทิ (จากมะพร้าว 5-6 ลูก)
3. น้ำตาลทราย 800 กรัม
4. กล้วยน้ำว้าสุก ๆ (สุกมาแล้วสัก 2 คืน)
5. เกลือป่น
6. ใบตอง
7.ถั่วดำ
8.ตอกไม้ไผ่ ใช้มัดข้าวต้ม

วิธีการทำ
1.นำข้าวเหนียวมาล้างให้สะอาด ช่วงที่ล้างนี้มีข้อสังเกตนิดหนึ่งคือ ข้าวเหนียวที่ตักออกมาใหม่ ๆ ใส่
กะละมัง ให้น้ำให้พอดี น่ถืงกับท่วม ปริมาณน้ำขนาดนี้ให้จำไว้ เพราะช่วงที่เตรียมกะทิสำหรับผัด ใช้กะทิ
ในปริมาณนี้เช่นกัน เมื่อล้างจนสะอาดแล้ว (สัก 2-3 ครั้ง) แช่ไว้สัก ประมาณ 10 นาที ราวขึ้นมาพักไว้ในกะละมัง
2.เคี่ยวกะทิจนเดือด ใส่ข้าวเหนียวลงไปผัด จัดจนแห้ง (อย่าใช้ไฟแรง) แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปผัดต่อ ผัดจนน้ำตาลรัดเม็ดข้าวดีแล้ว โรยเกลือนิดหน่อย ยกลงพักไว้
3.การห่อข้าวต้มมัด ตักข้าวเหนียววางบนใบตอง ตามด้วยกล้วยน้ำว้าผ่าซีก (ถ้าลูกใหญ่ ผ่า 3ซีก ลูกเล็กผ่า 2 ซีก) ตามด้วยข้าวเหนียวทับไปอีกชั้นหนึ่ง จาก
นั้นจะประดับด้วยถั่วดำอีกก็ได้ แต่ต้องนำไปต้มมาก่อนแล้วจึงห่อ มัดด้วยตอก
4.นำไปเรียงในลังถึง ใช้เวลานึ่งชั่วโมงเศษ ๆ ก่อนยกลง นำมาแกะดูสักมัดหนึ่้ใก่อนว่าข้าวเหนียวสุกดีหรือไม่

ข้าวเิีหนียวเปียกกะทิ
ข้าวเิีหนียวดำเปียกกะทิข้าวเหนียวดาเปียกกะทิ เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทำง่ายมาก ชวนจะอร่อยหรือไม่นั้น อยู่ที่ฝีมือของคนปรุงแล้วล่ะ ขนมชนิดนี้ควรระวังให้มากเรื่องความหวานเพราะหากหวานมากเกินไป บางคนไม่ชอบ

ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 500 กรัม
น้ำตาลทราย 500 กรัม
กะทิสด 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น

ขั้นตอนการทำ
นำข้าวเหนียวดำมาต้มพอสุกแล้วใส่น้ำตาลทรายพอประมาณ อย่าใส่น้ำตาลทรายก่อน
เพราะน้ำตาลจะรัดข้าวเหนียว ทำให้ไม่สุกส่วนกะทิ นำมาเคี่ยว (ไม่ต้องนาน) และเติมเกลือ
นิดหน่อย ก็ใช้ได้

ข้าวเหนียวเปียกมะพร้าวอ่อน
ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 500 กรัม
มะพร้าวอ่อน
น้ำตาลทราย 500 กรัม
กะทิสด 2 ถ้วยตวง
เกลือ

**อาจดัดแปลงเป็นลำไยหรึอสาคูได้ ถ้าเป็นสาคูต้องต้มให้สุกก่อน
ขั้นตอนการทำล้างข้าวเหนียวให้สะอาด นำมาต้ม (ลักษณะการทำเหมือนทำข้าวต้มธรรมดา) เมื่อเมล็ืดข้าวพองตัวแล้ว
ใส่น้ำตาลทราย ตามด้วยกะทิสด และมะพร้าวอ่อนเวลาเสิร์ฟให้หยอดหน้าด้วยกะทิข้น ซึ่งมีวิธีการทำคือ คั้น
เอาแต่หัวกะทิ ผสมด้วยเกลือ หากต้องการให้กะทิอยู่ได้นานขึ้น ให้นำไปตั้งไฟเคี่ยว โดยใส่แป้งมันละลาย
น้ำลงไปนิดหน่อย จะทำให้กะทิข้น และน่ากินมากขึ้น(การเคี่ยวกะทินี้ไม่ต้องนานมาก แค่พอกะทิเดือดและ
ข้นดีแล้วให้ยกลง)

มะพร้าวแก้ว
มะพร้าวแก้ว เป็นขนมหวานพื้นบ้าน วัตถุดิบในการทำมีเพียง มะพร้าวและน้ำตาล 2 อย่างเท่านั้นมะพร้าวแก้วมีวิธีการทำที่ไม่ยากเลย เพียงแต่หามะพร้าวทึนทึก (มะพร้าวกลางแก่กลางอ่อน)มาขูดให้เป็นเส้นยาว ลงไปเชื่อมในน้ำเชื่อมน้ำเชื่อม ที่มีส่วนผสมของ น้ำต่อน้ำตาล 1:2เคี่ยวจนขึ้นดีแล้ว จึงใส่มะพร้าวลงไป คอยให้น้ำตาลเข้าในเนื้อมะพร้าวจนขึ้นเกล็ดนั่นแหละจึงใช้ได้ จากนั้นนำขึ้นมานำซึ่งให้แห้งดี แล้วเก็บเข้าขวดโหลที่มีฝาปิดสนิท จะเก็บได้หลายวัน

ขนมตาล
ขนมหวานในคราวนี้ออกจะยุ่งยากสักหน่อย แต่หากได้ชิมขนมที่สำเร็จเสด็จออกมาจากเตาแล้ว รับรองหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งทีเดียว


ส่วนผสม
ผลตาลสุก2-3 ผล
น้ำตาลทราย 6 ถ้วยตวง
กะทิ 6 ถ้วยตวง
แป้ง 6 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูดพอประมาณ

วิธีการทำ
1.นำลูกตาลมาลอกเปลือกออกแล้วยีเอาแต่เนื้อ ใส่ถุงแป้งแขวนไว้ 12 ชั่วโมง เพื่อให้สะเด็ดน้ำ
เหลือแต่เนื้อล้วน ๆ ก่อนคิดจะทำขนมนี้ขายต้องเตรียมการล่วงหน้า 1 วัน
2.นำน้ำตาลไปเกี่ยวกับกะทิจนน้ำตาลละลา็ยระหว่างที่เกี่ยวอย่าใช้ไฟแรง

3.เมื่อได้ส่วนผสมน้ำมาแล้ว นำมาผสมกับเนื้อตาล 2 ถ้วยตวง และนวดกับแป้งจนได้ที่ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปตั้งทิ้งไว้กลางแดด 12 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อขนมขึ้นฟู ขั้นตอนนี้ หากต้องการตั้งทิ้งไว้ตอนกลางคืนจะใช้ผงฟูช่วยด้วยก็ได้ ก่อนนำไปนึ่ง ให้โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดผสมเกลือเล็กน้อย ขนมตาลใช้เวลาในการนิ่งนาน 15 นาที จับเวลานับแต่น้ำเดือด

ขนมกล้วย
ส่วนผสม
1.กล้วยน้ำว้า 1 หวี (10-11ผล)เลือกกล้วยที่ค่อนข้างงอมแต่ไม่ถึงกับงอมจนเละ
2. แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
3. แป้งมันสำปะหลัง 400 กรัม
4. น้ำตาลทราย 600 กรัม
5. มะพร้าวห้าว 500 กรัม
6. กะทิ 1 ถ้วยตวง
7. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.นำกล้วยกับแป้งข้าวเจ้ามานวดจนเหนียว ใส่น้ำตาลทราย ใส่น้ำนิดหน่อยพอให้ตักได้ข้นๆ
2.จากนั้นจึงใส่กะทิ มะพร้าว คนให้เข้ากัน หากไม่มีมะพร้าวห้าวใช้มะพร้าวขูดใส่แทนได้ มะพร้าวห้าวที่ใช้หั่นเป็นชิ้น ๆ ไม่ต้องหนามาก
3.ตักใส่ใบตองแล้วห่อ จะห่อแบบสี่เหลี่ยม หรือใส่เป็นกระทงก็ได้แล้วนำไปนึ่งนาน 40 นาที

หรืออาจจะนำไปทอดแทนก็อร่อยไม่แพ้กัน หรือจะแบ่งทั้งนึ่ง ทั้งทอด ก็ได้ขนมอร่อย ไปอีกแบบ

กล้วยบวชชี
กล้วยบวชชีเป็นขนมพื้นบ้าน ทำง่ายที่สุด อร่อยที่สุดและราคาถูก

ส่วนผสมกล้วยบวชชี
กล้วยน้ำว้า
กะทิ
น้ำตาลทราย
เกลึอป่น


วิธีทำ
กะทที่คั้นได้ แยกไว้ เป็นหัวกะทิกับหางหางกะทิใส่หม้อ เคี่ยวสักพักใส่กล้วยใส่น้ำตาล
ทราย เกลือ ก็ใช้ได้แล้ว แต่ระวังอย่าใส่น้ำตาลมากจะหวานเกินไป กล้วยบวชชีที่อร่อยน่าจะออกรสหวาน
ปะแล่ม ๆ เค็มนิดหน่อย และมันพอควรในการทำกล้วยบวชชีนั้น ที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็น
ช่วงเคื่ยวกะทิ อย่าให้กะทิแตกมันเด็ดขาด มิฉะนั้นจะมันมาก และกล้วยที่ใช้ในการทำขนมนี้ คือกล้วยน้ำว้าที่
ห่าม ๆ หน่อย อย่าใช้กล้วยสุกเกินไป จะไม่อร่อย

ขนมดอกจอก
ส่วนผสม
แป้งสาลี 4 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
เกลือ 3 ช้อนชา
งาดำ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 2 ช้อนตวง
ไข่แดง 2 ฟอง
มะพร้าว 200 กรัม
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีการทำ
นำแป้งทั้งหมดมาผสมกัน ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ งาดำ ไข่แดง มะพร้าว หัวกะทิ และน้ำปูนใส คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดีจากนั้นนำลงทอดในกระทะโดยใช้พิมพ์ พิมพ์สำหรับขนมดอกจอกโดยเฉพาะ จุ่มพิมพ์ลงในแป้ง อย่าจุ่มพิมพ์ให้มิดแป้ง จากนั้นนำลงในน้ำมัน ยกพิมพ์ขึ้น ขนมผุดไปเอง คอยกลับขนม 1 ครั้ง พอเหลืองแล้วตักขึ้น วางบนกระดาษสับมัน

ทับทิมกรอบ
ทับทิมกรอบ ขนมชนิดนี้ จะมีสีสันสวยงามนาม และอร่อย หวานเย้นชื่นใจ เหมาาะจะกินหน้าร้อน

ส่วนผสมของทับทิมกรอบ
แห้ว หรือมันแกว 1/2 กิโลกรัม
แป้งมัน 1 ถุง
น้ำตาลทราย 3/4 กิโลกรัม (ต้องกาพวาพากหรือน้อยเพื่อลดจำนวนได้)
น้ำสะอาด
กะทิสด (หัวกะทิ)
ขนุน

วิธีการทำ
1.ขั้นแรก หั่นมันแกว หรือแห้ว เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ จากนั้นใส่น้ำหวานสีแดง เพื่อให้ดูเป็นเมล็ดทับ
ทิมมากขึ้น และน่ากินกว่าสีขาวล้วน จากนั้นนำไปคลุกด้วยแปังมัน แล้วพักไว้
2.ต้มน้ำให้เดือด ใส่มันแกว หรือแห้วลงไป พอสุกจะลอยขึ้นมาเอง ตักใส่ภาชนะไว้
ส่วนน้ำเชื่อม ให้ต้มน้ำใส่น้ำตาลทราย หวานมากน้อยตามต้องการ เมื่อยเดือด ยกลงพักไว้จนเย็น
3.ฉีกขนุนชิ้นตามยาวใส่ลงไป ส่วนผสมสุดท้ายคือ กะทิ ให้นั้นเอาแต่หัวกะทิไว้หยอดหน้าทับทิมกรอบ จะทำให้ขนมหวานมัน เสิร์ฟ ใส่ถ้วยเล็กพร้อมน้ำแข็งบดละเอียด